วันศุกร์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2558

Non-Finite verbs



คำกริยาแท้ ( Finite Verbs) และกริยาไม่แท้ ( Non-finite Verbs)
Finite Verbs ( คำกริยาแท้ ) ทำหน้าที่แสดงกริยาอาการที่แท้จริงของประธาน
ในประโยคมีการเปลี่ยนรูปไปตาม Subject , Tense, Voice และ Mood เช่น
Subject
I go to school every day
He goes to school every day
They go to school every day Tense
He goes to school every day
He went to school yesterday
He’s going to school tomorrow
Voice
Someone killed the snake. ( Active )
The snake was killed. ( Passive ) Mood
I recommend that he see a doctor.
(ไม่ใช่ ่he sees )
If I were you, I would not do it.
( ไม่ใช่ I was )      อ่านเพิ่มเติม

Tense



Tense

Tense คือรูปแบบ(หรือโครงสร้าง)ของกริยา ที่แสดงให้เราทราบว่า การกระทำหรือเหตุการ นั้นๆเกิดขึ้นเมื่อใด ซึ่งเรื่อง tense นี้เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าเราใช้ tense ไม่ถูก เราก็จะสื่อภาษากับเขา ไม่ได้ เพราะในประโยคภาษาอังกฤษนั้นจะอยู่ในรูปของ tense เสมอ ซึ่งต่างกับภาษาไทยที่เราจะมีข้อความบอกว่าาเกิดขึ้นเมื่อใดมาช่วยเสมอ แต่ภาษาอังกฤษจะใช้รูป tense นี้มาเป็นตัวบอก ดังนี้การศึกษาเรื่อง tense จึงเป็นเรื่องจำ เป็น.

Tense ในภาษาอังกฤษนี้จะแบ่ง ออกเป็น 3 tense ใหญ่ๆคือ

1. Present tense ปัจจุบัน

2. Past tense อดีตกาล

3. Future tense อนาคตกาล

ในแต่ละ tense ยังแยกย่อยได้ tense ละ 4 คือ

1 . Simple tense ธรรมดา(ง่ายๆตรงๆไม่ซับซ้อน).

2. Continuous tense กำลังกระทำอยู่(กำลังเกิดอยู่)

3. Perfect tense สมบูรณ์(ทำเรียบร้อยแล้ว).

4. Perfect continuous tense สมบูรณ์กำลังกระทำ(ทำเรียบร้อยแล้วและกำลัง ดำเนินอยู่ด้วย).